Search

ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบดยูงทอง: ความมันส์ระดับ 5 ดาว แต่เผยรอยร้าวในเกมรับ คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง - thsport.com

food-grade.blogspot.com

ดุเดือดสมการรอคอยจริง ๆ นะครับ สำหรับเกมบิ๊กแมตช์ของ เดย์ 1 พรีมียร์ลีก ที่แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของแชมป์จากลีกรอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งผลจบลงด้วยการเฉือนเอาชนะไปอย่างสุดมันส์ 4-3 โดยที่ "โมฮาเหม็ด ซาล่าห์" รับบท แฮตทริค ฮีโร่ ไปอย่างหล่อ ๆ แถมยังเป็นนักเตะหงส์คนแรกในรอบ 32 ปีที่ทำแฮตทริคได้ในนัดเปิดฤดูกาล ต่อจาก จอห์น อัลริดจ์ ในปี 1988 อีกด้วย

ส่วนคะแนนความสามารถของผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีมจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เชิญทัศนา

อลิสซอน เบ็คเกอร์:  5 / 10

เป็นเกมที่เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะ โดยเฉพาะการสื่อสารกับกองหลังที่เกมนี้ดูจะบกพร่องอย่างเห็นได้ชัด และกับประตูที่เสียให้ แจ็ค แฮร์ริสัน ก็น่าจะปิดมุมได้ดีกว่านี้

แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน: 7 / 10

เล่นได้ดีที่สุดในบรรดาแผงกองหลังของ ลิเวอร์พูล ลูกครอสจากริมเส้นยังคงเป็นไว้วางใจได้เหมือนเดิม ขณะที่เกมรับยามดวลตัวต่อตัวก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน ซึ่งเขาสามารถแย่งบอลชนะคู่แข่งถึง 10 ครั้งด้วยกัน

โจ โกเมซ: 6 / 10

แม้จะเล่นผิดพลาดให้เห็นบ้าง แต่ โจ โกเมซ ก็ช่วยป้องกันลูกกลางอากาศได้ดี เมื่อสามารถเอาชนะลูกโหม่งได้ถึง 4 จาก 5 ครั้ง และแย่งบอลชนะ 11 ครั้ง มากที่สุดในบรรดาแบ็คโฟร์ของทีม

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค: 5 / 10

ผิดพลาดกับประตูที่ 2 แม้จะทำประตูให้ทีมได้ก็ตาม แต่ในเกมนี้คือเกมที่ ฟาน ไดจ์ค ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเขาเองอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นการประกบตัวหรือแม้แต่การสื่อสารกับคู่พาร์ทเนอร์ และ อลิสซอน ถึงอย่างไรก็ตาม ฟาน ไดจ์ค ยังแข็งแกร่งในลูกโด่งเหมือนเคย เพราะสามารถเอาชนะได้ 3 ครั้ง และดวลโหม่งไม่แพ้ใครเลยยามเล่นเกมรับ

 

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์: 5 / 10

เป็นอีกคนที่ผิดฟอร์มไปกว่าที่เคยเห็น ความดุดันในการเล่นเกมรับหายไป ประตูแรกที่ทีมเสียประตู เขาก็มีส่วนรับผิดชอบเกินครึ่ง ขณะที่เกมบุกซึ่งเคยโดดเด่นก็ตกไปจากมารฐานที่เคยเป็นเล็กน้อย โดยที่ เทรนท์ ครอสบอลเข้าเป้าเพียงแค่ 3 จาก 10 ครั้ง เท่านั้น

จอร์แดน เฮนเดอร์สัน:  7 / 10

เล่นได้ดีที่สุดในแดนกลางของทีม สามารถแท็คเกิ้ลชนะ 4 จาก 4 ครั้ง และแย่งบอลสำเร็จไป 6 ครั้ง แม้จะเพิ่งกลับมาลงสนามได้ไม่นานนักก็ตาม แต่การเล่นของ เฮนโด้ ก็นับว่าช่วยทำให้แดนกลางของ ลิเวอร์พูล เกิดความสมดุลกว่าในนัดที่ไม่มีเขา อย่างเกมกับ อาร์เซน่อล เมื่อสัปดาห์ก่อนเยอะเลยทีเดียว

นาบี เกอิต้า:  6 / 10

เกมกับ อาร์เซน่อล ลงมาครึ่งหลังแล้วสามารถช่วยยกระดับเกมแดนกลางให้ดีขึ้นได้ ส่วนในเกมนี้ก็ถือว่ายังทำหน้าที่ได้ดีในช่วงเริ่มต้น ทว่า พอเข้าสู่ปลายครึ่งแรกไปจนถึงต้นครึ่งหลังเริ่มมีจังหวะผิดพลาดและรักษาระดับการเล่นไว้ไม่ค่อยได้ ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 58

จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม: 6 / 10

ขยันวิ่ง และคอยเติมเกมได้ตามมาตรฐาน จ่ายบอลสำเร็จ 17 ครั้ง และสร้างโอกาสให้ทีมได้ 2 หน น่าเสียดายที่ลูกยิงของเขาไม่เป็นประตู โดยรวมถือว่า ไวจ์นัลดุม เล่นได้พอใช้ แถมมีเปอร์เซนต์จ่ายบอลสำเร็จสูงที่สุดในบรรดากองกลางทั้ง 3 คนอีกด้วย

ซาดิโอ มาเน่: 7 / 10

วูบวาบและปั่นป่วนกองหลังของ ลีดส์ ได้ดี โดยเลี้ยงบอลสำเร็จ 5 จาก 6 ครั้ง สร้างโอกาสให้ทีมอีก 4 ครั้ง แถมมีส่วนช่วยสกรีนแนวรับของ ลีดส์ จนเป็นการเปิดทางให้ ฟาน ไดจ์ค โถมเข้าโหม่งประตูขึ้นนำ 2-1 ได้อีกด้วย

โมฮาเหม็ด ซาล่าห์: 9 / 10

ใครที่บ่นว่าเขาฟอร์มตก เกมนี้ โม ซาล่าห์ ทำให้เห็นแล้วว่าเขายังคงเป็นนักเตะที่สำคัญต่อทีมในเกมรุกมากขนาดไหน เพราะนอกจากจะทำแฮตทริคได้แล้ว ยังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ 4 ครั้ง เลี้ยงบอลสำร็จ 7 ครั้ง ยิ่งมองลึกลงไปในการยิงจุดโทษทั้ง 2 ลูกนั้น จะพบว่า ซาล่าห์ ทั้งนิ่ง ทั้งฉลาดในการจบสกอร์ อย่างไร้ที่ติเลยทีเดียว

โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่:  6 / 10

จุดเด่นเรื่องการเคลื่อนที่หาช่อง ดึงตัวประกบ และสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมในการเล่นเกมรุก ฟิร์มิโน่ สามารถทำได้ดีตามมาตรฐานเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลสำเร็จที่มีเปอร์เซนต์สูงที่สุดในบรรดาตัวรุกของทีม 85% ทั้งที่เล่นตำแหน่งกองหน้า รวมไปถึงการเลี้ยงกินตัวสำเร็จ 100% ขาดเพียงแค่การทำประตูเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ฟิร์มิโน่ ก็จะสมบูรณ์มากขึ้นสำหรับตำแหน่งหัวหอกของทีม

 

ตัวสำรอง

ฟาบินโญ่: 7 / 10

ลงมาแทน เกอิต้า และทำหน้าที่ไล่สกรีนแย่งบอลสำเร็จ 3 ครั้ง มีเปอร์เซนต์จ่ายบอลสำเร็จสูงมากที่ 92% รวมไปถึงเป็นการเปลี่ยนตัวที่ทำให้เกมตรงกลางของ ลิเวอร์พูล แน่นขึ้น โดยเฉพาะการแบ่งเบาภาระในเกมรับ

เคอร์ติส โจนส์: 6 / 10

ลงมาแทน เฮนโด้ ทำหน้าที่ได้พอใช้ แต่ในระยะยาว เราน่าจะพอมองออกแล้วว่าเด็กคนนี้คือส่วนหนึ่งในทีมของ คล็อปป์ อย่างแน่นอน

โจเอล มาติป: ลงมาช่วงท้ายเกม ตัดเกรดไม่ได้

เจอร์เก้น คล็อปป์: 7 / 10

เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็น คล็อปป์ ต้องออกแรงแก้เกมชนิดนาทีต่อนาที การดวลกับ มาร์เชโล่ บิเอลซ่า ที่ไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของแชมป์เก่าเลยแม้แต่น้อย ทำให้ ลิเวอร์พูล ค้นพบว่า นอกจากเกมรับของพวกเขามีจุดอ่อนที่สามารถถูกโจมตีได้ง่ายกว่าฤดูกาลที่แล้ว เกมตรงกลางสนามยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เราจะเห็นได้ว่า คล็อปป์ ต้องปรับตรงนี้เพื่อเปลี่ยนเกมมา 2 นัดติดแล้ว เพราะในบางสถานการณ์พวกเขาจำเป็นอย่างมากที่ต้องมีกองกลางฝีเท้าระดับท็อปอีกสักคน เพื่อเข้ามายกระดับ และเพิ่มมิติในการเล่นให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ หากต้องการรักษาแชมป์เอาไว้

ผมคิดว่าหลังจากจบเกมนี้ สิ่งที่ เดอะ ค็อป อยากได้ คงไม่ขออะไรมากเลยนะครับ อาจขอเซนเตอร์ฮาล์ฟสักคน กองกลางอย่าง ตีเอโก้ อัลคันทาร่า อีกสักคน

ได้แค่นี้ แฟน ลิเวอร์พูล คงจะพอใจมาก ๆ แล้วสำหรับการเสริมทัพเพื่อลุยในศึกระยะยาวอีก 9 เดือนที่เหลือต่อจากนี้ ไม่ขออะไรมากเลยจริง ๆ





September 13, 2020 at 05:08AM
https://ift.tt/3bUvS3S

ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบดยูงทอง: ความมันส์ระดับ 5 ดาว แต่เผยรอยร้าวในเกมรับ คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง - thsport.com

https://ift.tt/3eZTFQ5


Bagikan Berita Ini

0 Response to "ตัดเกรดแข้งลิเวอร์พูลเกมบดยูงทอง: ความมันส์ระดับ 5 ดาว แต่เผยรอยร้าวในเกมรับ คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง - thsport.com"

Post a Comment

Powered by Blogger.