ตัดเกรด "โอเล กุนนาร์ โซลชาร์" กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนฃอง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" หลังสามารถจบอันดับที่ 3 ประจำซีซั่น 2019-20 ไปลุย "ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก"
โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ สามารถนำพา "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบอันดับ 3 ประจำฤดูกาล 2019-20 นั่นทำให้พวกเขาได้สิทธิ์ไปลุยศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลถัดไป และนี่คือบทการวิเคราะห์และการตัดเกรดของกุนซือผู้นำขนบธรรมเนียมที่เรียกว่า "United Way" ในสมัยเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสกอตแลนด์ กลับมาอีกครั้ง
วิเคราะห์ภาพรวมฤดูกาล 2019-20
โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ นำ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประเดิมสนามนัดแรกได้อย่างสวยงามด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี 4-0 แต่หลังจากนั้นไม่นานผลงานของทีมก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ไร้ซึ่งความสม่ำเสมอ 3 วันดี 4 วันไข้
เห็นได้ชัดว่าขนาดของทีมเล็กกว่าที่ควรจะเป็น จากการที่ทีมตัดสินใจปล่อย โรเมลู ลูกากู หัวหอกชาวเบลเยียม และ อเล็กซิส ซานเชซ ออกจากทีม โดยไม่ได้ใครมาแทน นั่นทำให้ โซลชาร์ ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงถึงการตัดสินใจดังกล่าว และตัวเขายิ่งโดนกระแสกดดันหนักขึ้นไปอีก เมื่อขยันส่ง เจสซี ลินการ์ด และ อันเดรียส เปเรรา สลับกันเป็นจอมทัพหมายเลข 10 ทว่าผลงานออกมาย่ำแย่ไร้ประสิทธิภาพ
บรรยากาศในทีมตอนนั้นถือว่าไม่สู้ดีนัก เพราะผลงานยังหาความแน่นอนไม่เจอ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ จึงเจอกระแส "โอเล่ เอาต์" จากบรรดาแฟนบอลบางส่วน (ย้ำว่าบางส่วน) ออกมาเรียกร้องให้ให้สโมสรปลดเขาออกจากตำแหน่ง แต่กระนั้นบอร์ดบริหารของทีมไม่เอนเอียงไปตามกระแส และเลือกที่จะให้โอกาสกับเขาต่อไป จนผลงานเริ่มกระเตื้องขึ้นมา
จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่เดือนมกราคม ที่ทีมคว้าตัว บรูโน เฟอร์นันเดส กองกลางชาวโปรตุเกส มาจาก สปอร์ติง ลิสบอน ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 47 ล้านปอนด์ ซึ่งอาจทะลุไปถึง 68 ล้านปอนด์ หากนักเตะทำได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา
ปกติแล้วนักเตะส่วนใหญ่เวลาย้ายทีมจะต้องใช้เวลาปรับตัว และยิ่งนักเตะที่มาจากต่างแดนน่าจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวทั้งในและนอกสนาม แต่เปล่าเลย เขาเหมือนยกสถิติการทำประตูที่ยอดเยี่ยมจากลีกโปรตุเกสมาไว้ที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เขามีการทำประตูที่หลากหลาย ทั้งยิงไกล, ฟรีคิก และจุดโทษ รวมถึงยังแอสซิสต์ไปอีกหลายครั้ง (ยิง 8 แอสซิสต์ 7 ในลีก) จนมีส่วนสำคัญช่วยทีมจนอับดับที่ 3 ในลีกทั้งๆ ที่ตอนกลางแข่งขันผ่านไปครึ่งซีซั่นทีมยังตามหลังทีมในพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ราวๆ 10 กว่าคะแนน
ตัดภาพกลับมาที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ต้องบอกว่าเขามีจิตใจและความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งจริงๆ มันแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขายึดเป็นแนวทางมาตลอดมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แม้ตอนที่โดนกระแสโจมตีอย่างหนัก เขาก็ใจไม่ฝ่อห่อเหี่ยวไปตามแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ มันสะท้อนให้เห็นว่าเขารักสโมสรแห่งนี้มากแค่ไหน
เห็นหน้าติ๋มปนยิ้มๆ เขินๆ แบบนี้ แต่เขากลับเด็ดขาดในแนวทางของตัวเอง เขาเลือกที่จะหักดิบปล่อยนักเตะที่คิดว่าไม่สามารถเข้ากับเส้นทาง "United Way" เขาทำเพื่อให้สปิริตของทีมดีขึ้น แล้วอ้าแขนรับแรงกดดันนั้นไว้คนเดียว แต่นั่นมันทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกของเพดานโครงสร้างค่าเหนื่อยท่ีกลับมาสมดุลอีกครั้ง เพราะนักเตะหลายคนค่าเหนื่อยสูงกว่าความเป็นจริง
นอกจากนี้ การสวมบทบาทเงา "ไดเรกเตอร์ ออฟ ฟุตบอล" เฟ้นหานักเตะที่เหมาะสมกับสโมสรแห่งนี้ นั่นทำให้นักเตะที่ดึงเข้ามาทั้ง ดาเนียล เจมส์, อารอน วาน-บิสซากา, แฮร์รี แม็คไกวร์, บรูโน เฟอร์นันเดส, โอเดียน อิกาโล (ยืมตัว) ไม่มีใครล้มเหลวเลยสักคน
แต่กระนั้นจุดอ่อนที่ถือว่ายังเป็นปัญหาอยู่ทั้งแท็กติกที่ยังต้องพัฒนาต่อไป, การแก้เกมและการตัดสินใจในช่วงเวลาที่สำคัญ แต่มันคงจะดีขึ้นตามประสบการณ์ที่เขาแสดงให้เห็นว่าพัฒนาอยู่ตลอด ดังเช่นทิศทางในตอนเริ่มต้นฤดูกาลกับผลลัพธ์ตอนจบฤดูกาล
ตัดเกรด : 7.5 คะแนน
อ่านเพิ่มเติม...
July 29, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/3332gPb
ตัดเกรด "โซลชาร์" ซีซั่น 2019-20 - ไทยรัฐ
https://ift.tt/3eZTFQ5
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ตัดเกรด "โซลชาร์" ซีซั่น 2019-20 - ไทยรัฐ"
Post a Comment